ข่าวเลขที่ 201/2568 “พาณิชย์–ไปรษณีย์ไทย” ผนึกกำลังช่วยเกษตรกร แจกกล่อง–ตะกร้าผลไม้ 238,000 ชิ้น ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ, ลดต้นทุน-แก้ปัญหาผลไม้ค้างด่าน คาดกระจายผลไม้อีก 3,000 ตัน (20 มิถุนายน 2568)
พาณิชย์ ไปรษณีย์ไทย ผนึกกำลังช่วยเกษตรกร แจกกล่อง ตะกร้าผลไม้ 238,000 ชิ้น ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ ,ลดต้นทุน-แก้ปัญหาผลไม้ค้างด่าน คาดกระจายผลไม้อีก 3,000 ตัน กรมการค้าภายใน ร่วมกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ผนึกกำลังช่วยเกษตรกรไทย แจกกล่องและตะกร้าบรรจุผลไม้กว่า 238,000 ชิ้น พร้อมส่งฟรีทั่วประเทศ เพื่อเร่งกระจายผลไม้ไทย กว่า 3,000 ตัน ลดต้นทุนและแก้ปัญหาผลไม้ตกค้างจากสถานการณ์ด่านปิดประเทศเพื่อนบ้าน สร้างโอกาสขายผ่านระบบขนส่งที่ครอบคลุมและรวดเร็ว วันที่ 19 มิถุนายน 2568 นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ปีนี้ประเทศไทยมีปริมาณผลผลิตผลไม้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณร้อยละ 17 โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออก เช่น มังคุดและเงาะ ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงปลายฤดูผลผลิต อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การปิดด่านของประเทศเพื่อนบ้าน สร้างความกังวลในการขายผลไม้ในจังหวัดภาคตะวันออกของไทย กรมการค้าภายในจึงได้เร่งประสานความร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วนในการช่วยกันกระจายผลผลิตในพื้นที่ออกไปจำหน่ายในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ นายวิทยากร กล่าวต่อว่า กิจกรรมในครั้งนี้กรมการค้าภายในจับมือร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ที่มีระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั่วประเทศ และสามารถกระจายผลผลิตของเกษตรกรได้รวดเร็วและทั่วถึง ด้วยปัจจุบันการจำหน่ายผลไม้ในช่องทางออนไลน์ หรือการส่งผลไม้เป็นของฝากของขวัญ ต้องใช้บริการการจัดส่งแบบรวดเร็วเพื่อคงความสดใหม่ของผลไม้ ไปสู่ผู้บริโภคในประเทศ และช่วยบรรเทาภาระของเกษตรกรในการนำผลผลิตออกจากแหล่งผลิต รวมถึงประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องผลไม้ตกค้าง โดยทางกรมการค้าภายในได้จัดเตรียม บรรจุภัณฑ์ผลไม้ DIT ซึ่งประกอบด้วยกล่องขนาด 10 กิโลกรัม จำนวน 188,000 กล่อง และตะกร้าขนาด 5 กิโลกรัม จำนวน 50,000 ตะกร้า รวมทั้งสิ้น 238,000 ชิ้น เพื่อช่วยลดต้นทุนการจัดส่งให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ โดยจะเริ่มทยอยกระจายไปยังสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ โดยเกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถติดต่อขอรับกล่องและตะกร้าดังกล่าวได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ เป้าหมายของโครงการนี้คือกระจายผลไม้สำคัญของประเทศ เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไย ลองกอง เงาะ และมะม่วง ให้ได้ไม่น้อยกว่า 3,000 ตัน ทั้งนี้ กรมฯ ขอความร่วมมือให้ใช้บรรจุภัณฑ์เหล่านี้สำหรับบรรจุเฉพาะผลไม้ไทย เพื่อสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือเกษตรกรตามวัตถุประสงค์ของการร่วมมือกันในครั้งนี้ ด้านบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับกรมการค้าภายในในการผลักดันผลไม้ไทยสู่ผู้บริโภค โดยมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการให้บริการจัดส่งสินค้าจากสวนถึงปลายทางทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และตรงเวลา นายวิทยากร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ กรมการค้าภายในยังได้วางแผนจัดกิจกรรม Thai Fruits Festival 2025 ในช่วงเดือนกรกฎาคม เพื่อต้อนรับเทศกาลผลไม้จากภาคใต้ อาทิ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง และผลไม้ประจำภาคอย่าง จำปาดะ สละ รวมถึงผลไม้จากภาคเหนือ ได้แก่ ลำไย ลิ้นจี่ และส้ม เพื่อส่งเสริมให้เกิดการรับรู้ว่าผลไม้ไทยมีอีกหลายชนิด โดยมุ่งเน้นที่คนเมืองอย่างกรุงเทพและปริมณฑลเพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศและสร้างช่องทางการตลาดเพิ่มเติมให้แก่เกษตรกร กรมการค้าภายในขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนเกษตรกรไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อผ่าน Facebook หรือโทรศัพท์เข้ามาแสดงความห่วงใย และพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายในการช่วยเหลือเกษตรกรไทยในช่วงที่มีผลผลิตปริมาณเยอะ ภายใต้แนวคิด เกษตรกรปลูกด้วยใจ คนไทยกินด้วยความรัก ซึ่งสะท้อนถึงคุณค่าของผลไม้ไทยที่มีคุณภาพ ไม่แพ้ชาติใดในโลก ประชาชนที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดใกล้บ้าน หรือทาง Facebook กรมการค้าภายในDIT หรือสายด่วน 1569 นายวิทยากร กล่าว
ดูเพิ่มเติม
ข่าวเลขที่ 200/2568 พาณิชย์ลุยใต้ ตรวจสถานการณ์ปาล์มราคาร่วง - เร่งโรงงานเดินเครื่อง รับมือผลผลิตล้นตลาด (19 มิถุนายน 2568)
พาณิชย์ลุยใต้ ตรวจสถานการณ์ปาล์มราคาร่วง - เร่งโรงงานเดินเครื่อง รับมือผลผลิตล้นตลาด ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ แหล่งผลิตปาล์มภาคใต้ ตรวจสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน หลังเกษตรกรเดือดร้อนจากราคาผลผลิตตกต่ำ พบปัญหาโรงงานบางแห่งหยุดผลิตเพราะเครื่องจักรชำรุดและถูกร้องเรียนเรื่องมลพิษ พร้อมเร่งมาตรการรับมือ ชูแนวทาง ตัดปาล์มสุก เพิ่มมูลค่าให้เกษตรกร นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรี และนายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่จังหวัดตรัง กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 17 18 มิถุนายน 2568 เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในพื้นที่จริง จากการลงพื้นที่พบว่า ปริมาณผลปาล์มยังสูง แต่เริ่มมีแนวโน้มลดลงแล้ว โดยโรงงานสกัดส่วนใหญ่เดินเครื่องเต็มกำลัง 24 ชั่วโมง แต่บางแห่งต้องหยุดดำเนินการ เนื่องจากเกิดมลพิษจากเครื่องจักรเก่า และเกิดเหตุขัดข้องจนไม่สามารถผลิตต่อได้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัญหาระยะสั้นๆ 1-2 วัน ก็จะสามารถรับซื้อได้ตามปกติ นายคุณากร กล่าวต่อไปว่า ได้ลงพื้นที่พบกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ผู้ผลิตปาล์มคุณภาพ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ นำไปจำหน่ายได้ราคา กก.ละ 5.30 5.40 บาท โดยกลุ่มเกษตรกรที่ตัดปาล์มสุกคุณภาพดีจะได้ราคาสูงขึ้น ส่วนปาล์มของเกษตรกรทั่วไปหากนำไปจำหน่ายที่โรงสกัดจะได้รับราคาไม่ต่ำกว่ากก.ละ 5.00 -5.20 บาท ตามคุณภาพ ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่พาณิชย์ลงมากำกับดูแลให้เกิดความเป็นธรรมกับเกษตรกรและเป็นราคาที่สูงกว่า ช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่ได้รับเพียงกก. 4.80 บาท กระทรวงพาณิชย์ยังเน้นย้ำให้ลานเทรับซื้อผลปาล์มคุณภาพ (ผลสุก สด ไม่แยกลูกร่วง ไม่รดน้ำ) และขอความร่วมมือผู้ตัดปาล์ม ให้ตัดเฉพาะผลปาล์มสุก เพื่อลดการสูญเสียและเพิ่มอัตราการสกัดน้ำมัน ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในตรวจสอบกำกับดูแลการรับซื้อให้ ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการอย่างเคร่งครัด ซึ่งผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดผ่านคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร เพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสม กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันทั้งระบบ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งเกษตรกร และจะเร่งบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป นายคุณากรกล่าว
ดูเพิ่มเติม
ข่าวเลขที่ 199/2568 “พิชัย” ลุยช่วยชาวสวน ดึง “ไทยแอร์เอเชีย” ซื้อผลไม้ร่วม 1,000 ตัน เสิร์ฟเมนูอาหาร-เครื่องดื่มบนเครื่องบิน เริ่ม ก.ค.นี้ (18 มิถุนายน 2568)
พิชัย ลุยช่วยชาวสวน ดึง ไทยแอร์เอเชีย ซื้อผลไม้ร่วม 1,000 ตัน เสิร์ฟเมนูอาหาร-เครื่องดื่มบนเครื่องบิน เริ่ม ก.ค.นี้ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้เชิญสายการบินยักษ์ใหญ่อย่างไทยแอร์เอเชียมาเป็นพันธมิตรช่วยรับซื้อผลไม้ช่วยเกษตรกร ตามนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งเน้นช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้สามารถขายสินค้าเกษตรได้ในราคาดี โดยโมเดลนี้เป็นการดึงพันธมิตรรายใหญ่ช่วยรับซื้อผลไม้จากเกษตรกรและนำไปสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยการผลิตเป็นสินค้าอาหารและเครื่องดื่มออกจำหน่ายในตลาดใหม่ ซึ่งเป็นลูกค้าของสายการบิน โดยความร่วมมือกับไทยแอร์เอเชียจะช่วยรับซื้อผลไม้หลัก ๆ 3 ชนิด คือ ลำไย มังคุด และสับปะรดภูแล เป้าหมายรวม 1,000 ตัน ผลิตเป็นเมนูเครื่องดื่ม Snack box และอาหารอุ่นร้อนจำหน่ายบนเครื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค.2568 เป็นต้นไป และจะจำหน่ายตลอดทั้งปี 2568 ทั้งนี้ ยังมีส่วนลดพิเศษให้พี่น้องประชาชนได้เข้าถึงสินค้าผลไม้เมนูต่าง ๆ เพื่อร่วมกันช่วยเหลือเกษตรกร โดยเดือน ก.ค.2568 จะมีเมนูจากลำไยวางจำหน่ายเดือน ส.ค.2568 จะเป็นมังคุด ราชินีผลไม้ ซึ่งเมนูมังคุดที่นำมาทำเป็นขนมหรืออาหารคาวในท้องตลาดยังมีไม่มาก แต่ไทยแอร์เอเชียอยากร่วมช่วยพี่น้องเกษตรกร จึงครีเอตเมนูจากมังคุดมาเสิร์ฟบนเครื่อง ต่อมาในเดือน พ.ย.-ธ.ค.2568 จะเป็นเมนูที่ทำจากสับปะรดภูแลออกจำหน่าย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ต้องขอขอบคุณไทยแอร์เอเชียอีกครั้งในความร่วมมือช่วยเหลือเกษตรกรในครั้งนี้ ผมขอขอบคุณพันธมิตรของกระทรวงพาณิชย์คือแอร์เอเชีย ที่ได้เป็นบริษัทต้นแบบในการกระจายสินค้าของพี่น้องชาวสวนไปยังผู้บริโภค ในล็อตนี้ได้ช่วยรับซื้อเป็นจำนวนมากถึง 1,000 ตัน พร้อมทั้งขอเชิญชวนภาครัฐและบริษัทเอกชนทุกแห่ง ได้มีส่วนร่วมในการกระจายผลผลิตของพี่น้องชาวสวนกันในฤดูกาลผลิตนี้ นายพิชัยกล่าว นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด กล่าวว่า สายการบินมียินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับกรมการค้าภายใน ในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ในครั้งนี้ ซึ่งเราได้ผลไม้ที่มีคุณภาพมาสร้างสรรค์เป็นเมนูที่แปลกใหม่ และเป็นทางเลือกให้ผู้โดยสารทั้งเส้นทางภายในและระหว่างประเทศ ครอบคลุมทั้งสายการบินไทยแอร์เอเชีย และไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีมาก ทั้งนี้เมนูกลุ่มเเรก เริ่มตั้งเเต่เดือนกรกฏาคมนี้ ได้พัฒนามาจากเมนูลำไย ได้เเก่ ไก่ทอดหาดใหญ่ซอสลำไย โอ้เอ๋วน้ำลำไยโกจิเบอร์รี่ โดยหลังจากนี้จะมีเมนูใหม่ๆ เมนูมังคุด ได้เเก่ ยำมังคุดแก้วกุ้งสด แกงเผ็ดเป็ดย่างใส่มังคุด ฮอกไกโดโรลมังคุด เมนูสับปะรด ได้เเก่ พิซซ่าฮาวายเอี้ยน น้ำพริกอ่องสับปะรดภูแล เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีจำหน่าย Snack box อาหารว่างเเละเครื่องดื่มที่มาจากผลไม้ พร้อมความพิเศษใน Snack box จะได้รับคูปองส่วนลด 20 บาท เพื่อใช้ซื้อสินค้าเมนูจากผลไม้เพื่อช่วยเกษตรกรได้อีกด้วย นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมได้รับมอบหมายจากนายพิชัยให้ลงนาม MOU ร่วมกับบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ในการช่วยดูดซับผลผลิตผลไม้ตามมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 เป้าหมาย 1,000 ตัน โดยต้องขอขอบคุณไทยแอร์เอเชียในความร่วมมือในครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยรับซื้อผลไม้หลัก 3 ชนิด ได้แก่ ลำไย มังคุด และสับปะรดภูแล ผลิตเป็นเมนูจำหน่ายบนสายการบินไทยแอร์เอเชียตลอดทั้งปี และยังช่วยสนับสนุนนำไปผลิตเป็นสินค้าผลไม้แปรรูป ในรูปแบบการเข็นขายบนเครื่อง และมีแผนที่จะช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมกับปลากะพงด้วยการทำเมนูอุ่นร้อนพร้อมทานจำหน่ายบนสายการบินทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย ซึ่งที่ทราบมา คือเมนูน่าทานมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเอบิซารุโซบะ แกงเหลืองทะเลไข่เจียวโหระพา ภายใต้โครงการนี้ เราสามารถช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรทั้งผู้ปลูกผลไม้และเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งและปลากะพง ขยายช่องทางการจำหน่ายออกสู่ตลาดใหม่ ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าของสายการบินแอร์เอเชียทั้งในและต่างประเทศ จึงอยากขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนผู้บริโภคเลือกซื้อเมนูผลไม้ที่มีให้เลือกหลากหลาย โดยกรมการค้าภายใน ร่วมกับ ไทยแอร์เอเชีย นำทัพผลไม้ภายใต้กิจกรรม Fruit On Board นำผลไม้คุณภาพเสิร์ฟถึงมือผู้บริโภค อิ่มท้องแล้วยังได้ช่วยพี่น้องเกษตรกรอีกด้วย นายวิทยากรกล่าว
ดูเพิ่มเติม
ข่าวเลขที่ 198/2568 กรมการค้าภายในเร่งกระจายผลไม้สู่ตลาดในประเทศ รับมือสถานการณ์ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา (17 มิถุนายน 2568)
กรมการค้าภายใน พลิกวิกฤตเดินหน้าประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน เร่งกระจายผลไม้กว่า 2,500 ตัน มั่นใจศักยภาพตลาดภายในช่วยรองรับผลผลิตช่วงปลายฤดูกาล บรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 17 มิถุนายน 2568 นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในกำกับติดตามสถานการณ์การค้าในภาคตะวันออก ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกรที่อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลไม้ โดยเมื่อวันเสาร์ ที่ 14 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา กรมการค้าภายในได้ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ร่วมกับพาณิชย์จังหวัดเพื่อติดตามการซื้อขายผลไม้ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี พบว่า การซื้อขายยังเป็นปกติ การส่งออกทุเรียนและมังคุดคัดเกรดไปยังประเทศจีนสามารถส่งออกไปแล้วในปริมาณเยอะ และขณะนี้ผลผลิตอยู่ในช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งคาดว่าผลผลิตจะหมดภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งขณะนี้การใช้ด่านหลักสองแห่ง ได้แก่ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต และจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาต ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เป็นเพียงจุดกระจายผลไม้ไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่เมื่อมีการปิดด่าน ผลไม้ไทยที่จะเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านมีปริมาณไม่มากนัก กรมการค้าภายในจึงได้เร่งเข้าไปประสานในพื้นที่ เพื่อนำออกกระจายนอกแหล่งผลิตภายในประเทศ โดยตลาดภายในประเทศสามารถรองรับผลผลิตในส่วนนี้ได้เพื่อช่วยระบายผลผลิตและรักษาเสถียรภาพราคา นายวิทยากร กล่าวต่อว่า กรมการค้าภายในจึงได้ประสานความร่วมมือกับพันธมิตรภาคเอกชนหลากหลายภาคส่วน เพื่อผลักดันผลไม้ภาคตะวันออกในช่วงปลายฤดูกาลนี้โดยตั้งเป้าไว้จำนวน 2500 ตัน โดยเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย. 68) กรมได้ร่วมกับ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ซื้อมังคุดคัดเกรดขนาดกลางในจังหวัดจันทบุรี จำนวน 1,000 ตัน เพื่อจำหน่ายในห้างแม็คโครและโลตัสทั่วประเทศ และยังมีห้าง โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ซึ่งจะเข้ามารับซื้อผลไม้ในช่วงนี้ด้วย นอกจากนี้ กรมยังมีแผนร่วมกับสมาคมธนาคาร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการกระจายผลไม้ไปทั่วประเทศ รวมถึงห้างท้องถิ่นต่าง ๆ โดยกรมจะจัดกิจกรรม Thai Fruits Festival ในงาน Phuket City Pride 2025 ปลายเดือนนี้ ในจังหวัดภูเก็ต อีกด้วย กรมการค้าภายในขอยืนยันว่า จากข้อกังวลของเกษตรกรหรือประชาชนจากเหตุการความไม่สงบบริเวณชายแดนของกัมพูชา กรมการค้าภายในได้มีการติดตามสถานการณ์การค้าขายอย่างใกล้ชิด และเตรียมแผนรองรับผลผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาให้พี่น้องเกษตรกร นายวิทยากรกล่าวทิ้งท้าย
ดูเพิ่มเติม
ข่าวเลขที่ 197/2568 “พาณิชย์–ซีพีแอ็กซ์ตร้า” ผนึกกำลังเร่งระบายมังคุด 1,000,000 กิโล เข้าสู่แม็คโคร-โลตัส ทั่วประเทศ ช่วยเกษตรกรภาคตะวันออกช่วงปลายฤดู (16 มิถุนายน 2568)
พาณิชย์ ซีพีแอ็กซ์ตร้า ผนึกกำลังเร่งระบายมังคุด 1,000,000 กิโล เข้าสู่แม็คโคร-โลตัส ทั่วประเทศ ช่วยเกษตรกรภาคตะวันออกช่วงปลายฤดู กรมการค้าภายใน นำแม็คโครโลตัส ภายใต้บริษัท ซีพีแอ็กซ์ตร้าฯ เข้าดูดซับผลผลิตมังคุดภาคตะวันออก 1,000,000 กิโลกรัม กระจายเข้า 2,600 สาขาทั่วประเทศ เร่งกระจายสินค้าคุณภาพถึงมือผู้บริโภค วันนี้ (16 มิถุนายน 2568) นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เข้าตรวจเยี่ยมชมการจำหน่ายมังคุดภายในห้างแม็คโครสาขาแจ้งวัฒนะ โดยเปิดเผยว่า จากสถานการณ์ผลผลิตมังคุดในภาคตะวันออกที่เข้าสู่ช่วงปลายฤดูกาลและคาดว่าจะสิ้นสุดภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ เกษตรกรหลายพื้นที่เริ่มมีความกังวลเรื่องการระบายผลผลิต โดยเฉพาะอุปสรรคในการส่งออกผ่านด่านชายแดนที่ยังคงมีข้อจำกัดบางประการ นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ จึงสั่งการ ให้ กรมการค้าภายใน ติดตามการจำหน่ายและร่วมกับเอกชนในการดูดซับผลผลิต ภายใต้มาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 ที่เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการบริหารจัดการผลไม้ในฤดูกาลอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการ เร่งระบายผลผลิตจากเกษตรกรสู่ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ราคาผลไม้ โดยเฉพาะมังคุด ปรับตัวดีขึ้น และสร้างรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกร นายวิทยากร กล่าวต่อว่า กรมการค้าภายใน เร่งประสานความร่วมมือกับพันธมิตรภาคเอกชนต่าง ๆ เพื่อช่วยดูดซับผลผลิตที่ออกมาในช่วงนี้เข้าสู่ระบบค้าปลีก กระจายเข้าสู่ห้างต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ผลผลิตไปถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว จึงได้ร่วมกับ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เจ้าของเครือข่ายห้างแม็คโครและโลตัสกว่า 2,600 สาขาทั่วประเทศ ดึงผลผลิตมังคุดจากสวนเข้าสู่ระบบค้าปลีกจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000,000 กิโลกรัม ภายใต้เป้าหมายรวมของการดูดซับผลผลิตช่วงปลายฤดูกาลไม่ต่ำกว่า 2,500,000 กิโลกรัม นางศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะเครือข่ายค้าปลีกที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเกษตรกรไทย โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่จำเป็น เราพร้อมสนับสนุนการกระจายผลไม้คุณภาพจากสวนสู่ผู้บริโภคอย่างทั่วถึง เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าดี และเกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง โดยมังคุดที่จัดจำหน่ายในห้างแม็คโครและโลตัสภายใต้ความร่วมมือนี้ เป็นมังคุดคัดเกรด ขนาดกลาง เม็ดเล็ก ลูกสม่ำเสมอ บรรจุในกล่องสีเหลืองขนาด 3 กิโลกรัม ราคากล่องละ 99 บาท เพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อและบริโภค กรมการค้าภายในยังเตรียมขยายความร่วมมือไปยังห้างท้องถิ่นในภูมิภาคอื่น ๆ เพื่อเสริมกำลังการกระจายผลผลิตทั่วประเทศ พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมอุดหนุนผลไม้ไทยในช่วงปลายฤดูกาล โดยเฉพาะ มังคุดภาคตะวันออก ซึ่งมีรสชาติดีและคุณภาพเยี่ยม นายวิทยากร กล่าวทิ้งท้าย
ดูเพิ่มเติม
ข่าวเลขที่ 196/2568 “พาณิชย์” ลงจันทบุรี จับมือ แมคโคร โลตัส และโลตัส-โกเฟรช เร่งดันมังคุดปลายฤดูกาล กระจายสู่ทุกสาขาทั่วประเทศ (15 มิถุนายน 2568)
พาณิชย์ ลงจันทบุรี จับมือ แมคโคร โลตัส และโลตัส-โกเฟรช เร่งดันมังคุดปลายฤดูกาล กระจายสู่ทุกสาขาทั่วประเทศ วานนี้ (14 มิถุนายน 2568) นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน มอบหมายให้ นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อติดตาม การรับซื้อผลผลิตมังคุดปลายฤดูในพื้นที่ภาคตะวันออกพร้อมนำผู้ประกอบการเร่งกระจายผลผลิตออกสู่ตลาด ตามข้อสั่งการของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้เน้นย้ำให้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้แก่เกษตรกร และยกระดับราคาผลไม้ให้เหมาะสมและทั่วถึงตลอดฤดูกาล กรมการค้าภายในจึงได้ร่วมมือกับจังหวัดจันทบุรี สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี และห้างค้าส่งค้าปลีก แมคโคร โลตัส และโลตัส-โกเฟรช ในการกระจายผลไม้มังคุดปลายฤดูไปยังสาขาทั่วประเทศอย่างเร่งด่วน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้แก่เกษตรกร และบรรเทาปัญหาผลผลิตช่วงปลายฤดูกาล ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2568 คนตัวใหญ่ช่วยคนตัวเล็ก เป็นส่วนหนึ่งของแผนงานส่งเสริมตลาดในประเทศ ที่กรมการค้าภายในได้ร่วมกับห้างค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่เข้ามาช่วยกระจายผลผลิตและสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่เกษตรกรรายย่อย นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงปลายฤดูกาลของผลไม้ภาคตะวันออก โดยเฉพาะมังคุด ซึ่งในช่วง 3-5 วันนี้ ถือว่าเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุด และจากนี้ไปผลผลิตจะค่อยๆเริ่มลดลง จึงจำเป็นต้องนำผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาดูดซับผลผลิตโดยเร่งด่วนในปริมาณมากในช่วงนี้ กรมฯ จึงประสานกับ แมคโคร โลตัส และโลตัส-โกเฟรช กระจายผลผลิตไปยังผู้บริโภคทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อช่วยยันราคาไม่ให้ตกต่ำ เกษตรกรมีรายได้อย่างเป็นธรรม และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กรมการค้าภายในยังคงเดินหน้าประสานความร่วมมือกับพันธมิตรเครือข่ายห้างค้าส่ง ค้าปลีก และตลาดต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การกระจายผลผลิตเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และผลไม้ไทยได้รับการบริโภคอย่างแพร่หลายทั่วประเทศจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูกาล
ดูเพิ่มเติม
ข่าวเลขที่ 195/2568 “กรมการค้าภายใน” ระดมตรวจเข้มเครื่องชั่งซื้อขายผลไม้ทั่วประเทศ ย้ำสร้างความเป็นธรรมให้เกษตรกร (13 มิถุนายน 2568)
กรมการค้าภายใน ระดมตรวจเข้มเครื่องชั่งซื้อขายผลไม้ทั่วประเทศ ย้ำสร้างความเป็นธรรมให้เกษตรกร กรมการค้าภายในระดมสายตรวจของศูนย์ชั่งตวงวัด/สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบเครื่องชั่งผลไม้ ที่ล้ง รับซื้อผลไม้จากเกษตรกรทั่วประเทศอย่างเข้มงวด จำนวน 5,887 เครื่อง ส่วนใหญ่ถูกต้องและเที่ยงตรง เพื่อให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมในการขายผลไม้ และได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย พร้อมย้ำผู้ประกอบการต้องแสดงราคารับซื้อผลไม้อย่างชัดเจนตามประกาศ กกร. โดยต้องแสดงราคาและเงื่อนไขการรับซื้อก่อนเวลา 08.00 น. หรือทันทีที่เปิดทำการรับซื้อ 13 มิถุนายน 2568 นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้วางมาตรการบริหารจัดการผลไม้ฤดูกาลปี 2568 ขณะนี้อยู่ในช่วงที่ผลไม้ทยอยออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก กรมการค้าภายในจึงได้ดำเนินมาตรการด้านกฎหมายอย่างเข้มข้นเพื่อดูแลความเป็นธรรมในการซื้อขายผลผลิตของเกษตรกร และรักษาความเป็นธรรมให้กับประชาชน จึงได้สั่งการให้กรมการค้าภายในมอบหมายเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดทั้งส่วนกลางและภูมิภาคตรวจเข้มเครื่องชั่งตามสถานรับซื้อผลไม้ (ล้ง) และตลาดสดทั่วประเทศ โดยระดมลงพื้นที่ตรวจสอบตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 ถึงปัจจุบัน (12 มิถุนายน 68) รวมเครื่องชั่งทั้งหมด 5,887 เครื่อง มีความถูกต้องเที่ยงตรง จำนวน 5,869 เครื่อง ในส่วน 18 เครื่อง ไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นเครื่องชั่งดิจิทัลที่ไม่มีเครื่องหมายคำรับรอง จำนวน 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการผูกบัตรห้ามใช้ และอีก 17เครื่อง เป็นเครื่องชั่งสปริงที่ชำรุดตามการใช้งาน เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการยึดและนำส่งกลับไปยังกรมเพื่อเข้ากระบวนการทำลายเครื่องชั่งที่ผิดกฎหมายต่อไป นายอุดม ยังกล่าวต่ออีกว่า โดยเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 ตนได้ลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษ และสายตรวจชั่งตวงวัด ออกตรวจสอบร้านขายผลไม้ทุเรียนริมถนน ย่าน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จากการตรวจสอบพบว่า หลายร้านมีการปิดป้ายแสดงราคาและเครื่องชั่งถูกต้องได้มาตรฐาน แต่พบเครื่องชั่งที่ไม่มีเครื่องหมายคำรับรอง จำนวน 1 เครื่อง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการยึด และนำส่งสำนักงานเพื่อเข้ากระบวนการทำลายเครื่องชั่งที่ผิดกฎหมายต่อไป ขอฝากถึงเกษตรกรผู้ขายผลไม้ รวมถึงประชาชนผู้ซื้อควรสังเกตการชั่งเพื่อรักษาสิทธิของตนเอง โดยเครื่องชั่งต้องวางในตำแหน่งที่สามารถให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถสังเกตเห็นผลการชั่งได้พร้อมกัน ไม่มีสิ่งของหรือสินค้าบังหน้าปัดชั่ง เข็มของเครื่องชั่งต้องไม่โค้งงอหรือชำรุดและก่อนทำการชั่งเข็มต้องอยู่ในตำแหน่งเลขศูนย์ และที่สำคัญสังเกตสติกเกอร์ตรวจสอบประจำปีบนเครื่องชั่งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าได้รับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดแล้ว พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดช่วงเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่เกษตรกรนิยมขายผลผลิตหลังจากเก็บเกี่ยวในช่วงเช้า เพื่อให้การรับซื้อเป็นธรรม และราคาที่แสดงตรงกับราคาที่รับจริงทุกวัน ขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้รวบรวมผลผลิตและโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ต้องติดป้ายแสดงราคารับซื้อ ณ บริเวณจุดรับซื้ออย่างชัดเจน และต้องเป็นราคาจริงที่รับซื้อ หากไม่ปฏิบัติ จะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ขณะเดียวกัน หากพบการใช้เครื่องชั่งที่ไม่ถูกต้องหรือมีการโกงน้ำหนัก อาจต้องโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนผู้บริโภค กรมจะลงพื้นที่ตรวจสอบเครื่องชั่งตามร้านขายผลไม้และบริเวณแผงขายทุเรียนมากยิ่งขึ้น พร้อมเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน หากพบการเอารัดเอาเปรียบหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายผลผลิต สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569 หรือ LINE: @MR.DIT หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดและสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดในพื้นที่ นายอุดม กล่าวทิ้งท้าย
ดูเพิ่มเติม
ข่าวเลขที่ 194/2568 “พิชัย” เคาะ กกร. ต่ออายุควบคุมสินค้า-บริการ 59 รายการอีก 1 ปี ดูแลผู้บริโภคให้เป็นธรรม (13 มิถุนายน 2568)
พิชัย เคาะ กกร. ต่ออายุควบคุมสินค้า-บริการ 59 รายการอีก 1 ปี ดูแลผู้บริโภคให้เป็นธรรม วันที่ 13 มิถุนายน 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 2/2568 ณ ห้องประชุมกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยมี ร้อยตรี จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เข้าร่วมที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ ต่ออายุการควบคุมสินค้าและบริการ จำนวน 59 รายการ ครอบคลุม 11 หมวดสินค้า และ 1 หมวดบริการ ไปอีกเป็นเวลา 1 ปี เพื่อดูแลราคาสินค้าและบริการให้เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 พร้อมเสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป สำหรับรายการสินค้าและบริการที่คงการควบคุม ประกอบด้วย 59 รายการ ได้แก่ 1.กระดาษและผลิตภัณฑ์ 3 รายการ 2.เครื่องใช้ไฟฟ้า 2 รายการ 3.บริภัณฑ์ขนส่ง 2 รายการ 4.ปัจจัยทางการเกษตร 7 รายการ 5.ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 2 รายการ 6.ยารักษาโรคและเวชภัณฑ์ 4 รายการ 7.วัสดุก่อสร้าง 4 รายการ 8.สินค้าเกษตรที่สำคัญ 7 รายการ 9.สินค้าอุปโภคบริโภค 7 รายการ 10. อาหาร 14 รายการ 11.อื่นๆ 2 รายการ 12. บริการ 5 รายการ ที่ประชุมยังมีมติ ยกเลิกมาตรการควบคุมใยสังเคราะห์โพลิโพรพิลีน (Spunbond) สำหรับการผลิตหน้ากากอนามัย เนื่องจากวัตถุดิบมีเพียงพอต่อความต้องการในประเทศแล้ว พร้อมเห็นชอบให้ เพิ่มพื้นที่ควบคุมการขนย้ายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอจะนะ (สงขลา) เกาะสีชัง (ชลบุรี) เมืองบึงกาฬ (บึงกาฬ) และเมืองหนองคาย (หนองคาย) รวมถึง ควบคุมการขนย้ายข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์นำเข้า ที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ ในพื้นที่อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติให้ คงมาตรการแสดงราคาจำหน่ายสินค้าและบริการ ทั้งในระบบออนไลน์และออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยรายการสินค้า/บริการ ณ จุดจำหน่าย (ออฟไลน์) จำนวน 290 รายการ (สินค้า 240 รายการ บริการ 50 รายการ) รายการแสดงราคารับซื้อสินค้าเกษตร 33 รายการ และสินค้าและบริการที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ต้องแสดงราคาอย่างชัดเจนเพื่อความโปร่งใส ด้านนายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมการค้าภายในได้ดำเนินการตามมติ กกร. โดยมีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน (ประชาพิจารณ์) พบว่าส่วนใหญ่ยังเห็นควรให้มีมาตรการควบคุมราคาสินค้าและบริการผ่านออนไลน์ เนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภค ทั้งนี้ กรมฯ ยังคงใช้กฎหมายในการบังคับให้ผู้ขายแสดงราคาสินค้าบนแพลตฟอร์มทุกครั้ง สำหรับสินค้าจำเป็น เช่น ชุดตรวจ ATK กรมการค้าภายในได้ประสานกับผู้นำเข้าเพื่อสนับสนุนการนำเข้าวัตถุดิบที่จำเป็น พร้อมติดตามราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยพิจารณาควบคู่กับคุณภาพของสินค้า ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ไม่แสดงราคา หรือจำหน่ายสินค้าเกินราคา สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร. 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
ดูเพิ่มเติม
Dit Logo New (2)

กรมการค้าภายใน ขอส่งแรงใจให้ทหารแนวหน้าที่กำลังปกป้องอธิปไตยผืนแผ่นดินไทย และพี่น้องชาวไทย ขอให้ปลอดภัย

สอบถามข้อมูล

arrow-down

DIT Chat Service ยินดีให้บริการ

maximize
สอบถามข้อมูลเพิมเติมกับเจ้าหน้าที่ (Admin)

บริการของกรมการค้าภายใน

7422635f-7946-4705-88ec-05d965bd7b40

การขออนุญาตประกอบการค้า

862c658c-96a2-4f51-87cb-7ae89028e48a

สอบถามราคาสินค้าเกษตร

e776ba32-103f-4917-b746-5333af42cf9d

รวบรวมกิจกรรมกรมการค้าภายใน

3e6fa301-b225-4427-b882-4d78e453a2ed

การเดินทางมายังกรมการค้าภายใน

เลขที 563 ถนนนนทบุรี ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000

โทรศัพท์ 0-2507-5530

โทรสาร: 0-257-5361

E-mail: Saraban@dit.go.th

Call Center: 1569 ร้องเรียน/เสนอแนะ