ข่าวเลขที่ 239/2568 “DIT” ลุยตรวจล้งทุเรียนยะลา เดินหน้าคุ้มครองเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรม (5 สิงหาคม 2568)
DIT ลุยตรวจล้งทุเรียนยะลา เดินหน้าคุ้มครองเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรม นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายใน DIT กระทรวงพาณิชย์ ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการดูแลความเป็นธรรมในการซื้อขายผลผลิตทางการเกษตร ตามนโยบายของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งเน้นการสร้างเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรและการคุ้มครองเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรม เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ได้ให้ลงพื้นที่จังหวัดยะลา เพื่อติดตามการตรวจสอบเครื่องชั่งที่ใช้ในการับซื้อทุเรียน ณ ล้งรับซื้อทุเรียน พร้อมพบปะผู้ประกอบการล้งรับซื้อทุเรียนในพื้นที่ เพื่อเน้นย้ำความสำคัญของการใช้เครื่องชั่งที่ได้มาตรฐานและการแสดงราคารับซื้ออย่างโปร่งใส อีกทั้ง กรมการค้าภายในได้สั่งการให้สำนักงานชั่งตวงวัดสาขาเขต 3-5 ยะลา บูรณาการร่วมกับสำนักงานชั่งตวงวัดสาขาสงขลา และศูนย์ชั่งตวงวัดภาคใต้ (สุราษฎร์ธานี) ลงพื้นที่ตรวจสอบเครื่องชั่งที่ใช้ในการรับซื้อทุเรียนในพื้นที่จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่เพาะปลูกและกระจายผลผลิตทุเรียนที่สำคัญของภาคใต้ ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม 2568 จากการตรวจสอบผู้ประกอบการรับซื้อทุเรียนทั้งหมด 161 ราย มีเครื่องชั่งแบบสปริงจำนวน 558 เครื่อง พบว่าไม่ผ่านมาตรฐาน 1 เครื่อง ซึ่งได้ดำเนินการยึดและส่งให้สำนักงานชั่งตวงวัดสาขายะลาและดำเนินการตามกฎหมายแล้ว และเครื่องชั่งระบบดิจิตอล จำนวน 5 เครื่อง ตรวจสอบไม่พบการดัดแปลงหรือโกงเครื่องชั่ง นอกจากนี้ กรมการค้าภายในยังได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ ดำเนินการตรวจสอบการแสดงราคารับซื้อทุเรียนอย่างเคร่งครัดตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 66 พ.ศ. 2566 โดยผู้รวบรวมผลผลิตหรือล้งต้องติดป้ายแสดงราคารับซื้อประจำวัน ภายในเวลา 08.00 น. หรือก่อนเปิดทำการ เพื่อให้เกษตรกรสามารถเปรียบเทียบราคาและตัดสินใจขายได้อย่างเป็นธรรม รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในช่วงเวลาที่เกษตรกรนำผลผลิตมาขาย โดยเฉพาะช่วงเย็นซึ่งมีปริมาณการซื้อขายสูง พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากตรวจพบว่าไม่แสดงราคารับซื้อ จะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากพบการดัดแปลงหรือโกงเครื่องชั่ง มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท หากเกษตรกรพบปัญหาเกี่ยวกับการซื้อขายหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร. 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
ดูเพิ่มเติม
ข่าวเลขที่ 238/2568 DIT ดันสินค้าชุมชนผ่าน “Farm Outlet” จับมือเดอะมอลล์ จัดกิจกรรม “Gourmet Market x DIT Farm Outlet” รับวันแม่ (4 สิงหาคม 2568)
DIT ดันสินค้าชุมชนผ่าน Farm Outlet จับมือเดอะมอลล์ จัดกิจกรรม Gourmet Market x DIT Farm Outlet รับวันแม่ กรมการค้าภายใน DIT ส่งเสริมจัดตั้งศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน Farm Outlet เพื่อเป็นช่องทางการตลาดให้เกษตรกร สถาบันเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน นำสินค้าคุณภาพดี ทั้งผลผลิตสดและผลิตภัณฑ์แปรรูปมาจำหน่ายโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง โดยดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน รวม 57 แห่ง ใน 35 จังหวัด ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการเรียนรู้เพิ่มศักยภาพให้ยกระดับสู่การเป็นผู้ประกอบการทั้งทักษะด้านการผลิตและการตลาด ชี้ให้เห็นความสำคัญของ ตลาดนำการผลิต สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าเกษตรชุมชนด้วยสตอรี่ที่ถ่ายทอดเรื่องราว เกิดเป็นความโดดเด่นและแตกต่างแต่ละชุมชน ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่ไม่เพียงเกิดขึ้นกับเกษตรกรเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม นางสาวญาณี ศรีมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้ผลักดันสินค้าชุมชนของศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน Farm Outlet ให้เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ ทั้งคนเมืองและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยการเข้าสู่ห้างค้าปลีกชั้นนำ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ พร้อมขานรับนโยบาย ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย ในวันนี้จึงได้จับมือ เดอะมอลล์ กรุ๊ป จัดกิจกรรม Gourmet Market x DIT Farm Outlet ระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม 15 สิงหาคม 2568 ณ กูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขาพารากอน ขนทัพสินค้าเกษตรแปรรูปคุณภาพดี สดใหม่ ปลอดภัย ราคาย่อมเยาจากศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน Farm Outlet ทั่วประเทศ กว่า 100 รายการ มาจำหน่ายให้ผู้บริโภคได้เลือกอุดหนุนสินค้าของชุมชน โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงแหล่งจำหน่าย สินค้าเด่นต้องโดน อาทิ กระยาสารทแม่สวิง เผือกหอม จมูกข้าวชงพร้อมดื่ม ข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ ข้าวฮางงอก GI ปลาเสียดเค็มหยอง ปลาเค็มคั่วโบราณ ผงโรยข้าว พริกหอม น้ำมันงาดำ กระดูกปลาฉลามแห้ง หรืองานหัตถกรรม อาทิ ผ้าคลุมไหล่บาติกมัดย้อม หมวก ตะกร้าสานผักตบชวา นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษ อาทิ ซื้อ 1 แถม 1 เพื่อให้ชาวกรุงได้ลองชิม และอุดหนุนสินค้าจากชุมชน ขอเชิญชวนประชาชนร่วมอุดหนุนสินค้าคุณภาพจาก ศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน (Farm Outlet) เพื่อร่วมส่งต่อรอยยิ้มและเป็นกำลังใจให้เกษตรกรและชุมชนร่วมกันพัฒนาสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นออกมาจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโอกาส วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นี้ สินค้า Farm Outlet ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการเลือกซื้อของขวัญแทนใจให้คุณแม่ อาทิ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ผลิตภัณฑ์แปรรูป สมุนไพร เครื่องหอม งานหัตถกรรม และของใช้คุณภาพดีจากชุมชน หากผู้บริโภคที่กำลังเดินทางท่องเที่ยวก็สามารถแวะเลือกซื้อสินค้าได้ตามจุดจำหน่ายที่ตั้งอยู่ทั่วประเทศ ปัจจุบันกรมการค้าภายในได้สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน (Farm Outlet) แล้ว 57 แห่ง ใน 35 จังหวัดทั่วประเทศ รองอธิบดีกล่าว การจัดกิจกรรม Gourmet Market x DIT Farm Outlet ครั้งนี้ เกิดเป็นความร่วมมือต่อเนื่องในการเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าของศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตร Farm Outlet ถาวร กับ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีแผนเชื่อมโยงผลผลิตกุ้งจากเกษตรกรมาจำหน่ายด้วย ภายใต้แนวคิด You Hunt We Cook เลือกเอง ให้เชฟทำ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในเมือง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้สินค้าเกษตรและสินค้าชุมชนที่ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ ครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และชุมชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เดินไปอย่างมั่นคงและแข็งแรง
ดูเพิ่มเติม
ข่าวเลขที่ 237/2568 “พาณิชย์ พึ่งได้” DIT กรมการค้าภายใน เร่งเปิดจุดร่อนรับซื้อลำไยรูดร่วงเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย และพะเยา ช่วยเกษตรกรช่วงผลผลิตออกกระจุกตัว (3 สิงหาคม 2568)
พาณิชย์ พึ่งได้ DIT กรมการค้าภายใน เร่งเปิดจุดร่อนรับซื้อลำไยรูดร่วงเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย และพะเยา ช่วยเกษตรกรช่วงผลผลิตออกกระจุกตัว กรมการค้าภายในร่วมมือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย และพะเยา ลงพื้นที่ติดตามการเปิดจุดรับซื้อลำไยของโรงอบและจุดร่อน ให้มีการเปิดจุดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพื่อช่วยดูแลเกษตรกร ในช่วงที่ผลผลิตกำลังออกมากและกระจุกตัวพร้อมกันทุกจังหวัด นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันผลผลิตออกสู่ตลาดมากในทุกจังหวัดแหล่งผลิตลำใยประกอบกับสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยทำให้ผลผลิต ออกมาแบบกระจุกตัว อีกทั้งปัญหาแรงงานขาดแคนทำให้เกษตรกรต้องเก็บแบบรูดร่วง มากกว่าที่มัดเป็นช่อ DIT ได้ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย และพะเยา ลงพื้นที่ติดตามการรับซื้อลำไย ตามนโยบายนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้เร่งมาตรการดูแลผลผลิตลำไย ในช่วงที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด โดยผลการลงพื้นที่ พบว่า ผู้ประกอบการลำไยอบแห้งและผู้ประกอบการจุดร่อน ได้มีการเปิดจุดรับซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พื้นที่อำเภอสันป่าตอง อำเภอจอมทอง อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอลี้ อำเภอป่าซาง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน อำเภอพาน อำเภอเทิง อำเภอป่าแดด อำเภอพญาเม็งราย อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย และ อำเภอจุน อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ทั้งนี้ ตามเป้าหมาย กรมจะประสานผู้ประกอบการ เข้าไปเปิดจุดรับซื้อลำไยจากเกษตรกร โดยจะเข้าไปรับซื้อผลผลิตลำไยจากเกษตรกรโดยตรง เพื่อดูแลเกษตรกร โดยเฉพาะในพื้นที่ ๆ ผลผลิตออกมากกระจุกตัว และมีโรงอบในพื้นที่น้อย ให้มีที่จำหน่ายผลผลิตได้อย่างต่อเนื่อง โดยปี 2568 ผลผลิตลำไยภาคเหนือ คาดว่า จะมีปริมาณ 1.06 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 21.36% โดยผลผลิตส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย ขณะนี้ผลผลิตได้ออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 40% และเริ่มออกสู่ตลาดมากในช่วงต้นเดือน ส.ค.2568 คาดว่าผลผลิตจะเริ่มลดลงหลังวันที่ 15 ส.ค เป็นต้นไป นายวิทยากรกล่าวว่า กรมจะนำผู้ประกอบการ เข้ารับซื้อผลผลิตลำไยของพี่น้องเกษตรกรอย่างต่อเนื่องขั้นต่ำจนถึงวันที่ 15 สิงหาคม ซึ่งผลผลิตจะมีปริมาณลดลงอย่างชัดเจน โดยในช่วงนี้จึงขอให้พี่น้องเกษตรกรเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะคอยติดตามให้มีการรับซื้ออย่างต่อเนื่องและขอให้พี่น้องเกษตรกรไม่ต้องเร่งเก็บลำไยโดยขอเก็บลำไยช่วงเวลาที่สุก ทั้งนี้ กรมยังได้ปฏิบัติตามข้อสั่งการของนายสุชาติ โดยได้มีการจัดตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร หากพื้นที่ใด มีปัญหาด้านผลผลิตล้นตลาด หรือมีปัญหาด้านราคา ก็จะเข้าไปช่วยเหลือดูแลทันที และยังอยู่ระหว่างการขับเคลื่อน 8 มาตรการเชิงรุก เพื่อช่วยระบายผลผลิตลำไยออกจากแหล่งผลิต ทั้งการเชื่อมโยงลำไยสดเพื่อส่งออก การกระจายผ่านเครือข่ายพันธมิตร การสนับสนุนกล่องบรรจุภัณฑ์ไปรษณีย์ให้กับเกษตรกรใช้บรรจุลำไย การจัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ Thai Fruits Festival 2025 การจัดกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) โดยดึงผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาช่วยซื้อ เชื่อมโยงการผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อ เชื่อมโยงขายในปั๊มน้ำมัน และช่องทางใหม่ ขายผ่านตู้เต่าบิน และแอร์เอเชีย นอกจากนี้ กรมและสำนักงานพาณิชย์จังหวัด จะดำเนินการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อดูแลเกษตรกรชาวสวนลำไย หากเกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกร ไม่สามารถกระจายผลผลิตออกสู่ตลาดได้ ให้แจ้งมายังกรมหรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด จะเร่งประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อผลผลิตโดยตรง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร โดยจะดูแลไปจนจบฤดูกาล
ดูเพิ่มเติม
ข่าวเลขที่ 236/2568 “จตุพร” ลงพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร ให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้า ชวนไทยช่วยไทยกระตุ้นเศรษฐกิจ เดินหน้าปรับโฉมตลาดสู่แลนด์มาร์กของไทย (2 สิงหาคม 2568)
จตุพร ลงพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร ให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้า ชวนไทยช่วยไทยกระตุ้นเศรษฐกิจ เดินหน้าปรับโฉมตลาดสู่แลนด์มาร์กของไทย เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 นายจตุพร บุรษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร (JATUJAK WEEKEND MARKET) พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารกรุงเทพมหานคร นำโดยนายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ประธานกรรมการบริหารสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร นายมีชัย ภัทรเปรมเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร และนางสาวปาณิศา ทองมา ผู้อำนวยการตลาดนัดจตุจักร เพื่อให้กำลังใจผู้ค้า และหารือแนวทางฟื้นฟูตลาดนัดชื่อดังระดับโลกแห่งนี้ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง นายจตุพร กล่าวว่า ปัจจุบันบรรยากาศการค้าขายในตลาดอาจซบเซาเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง แต่ตลาดนัดจตุจักรยังคงเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจ สิ่งที่ต้องทำคือยกระดับตลาดให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านสินค้า บริการ และบรรยากาศ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับมา และกระตุ้นยอดขายให้กับผู้ค้า ผมอยากเชิญชวนพี่น้องคนไทยมาช่วยกันสนับสนุน เพราะที่นี่มีความงดงาม และสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ในเรื่อง ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย ที่ต้องการเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้มีพื้นที่ในการค้าขายและสร้างรายได้ร่วมกัน นายจตุพร กล่าว ซึ่งตนได้หารือกับผู้อำนวยการสำนักงานเขตดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในตลาด เช่น ภูมิทัศน์ ห้องน้ำ ความปลอดภัย และการจัดระเบียบพื้นที่ เพื่อสร้างความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยว นอกจากนี้ จะจัดทำแผนที่บอกโซนสินค้าให้ชัดเจน พร้อมพิจารณาจัดอาสาสมัครสื่อสารได้หลายภาษาเพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ในด้านการเดินทางและที่จอดรถ โดยเฉพาะรถบัสและรถขนาดใหญ่ นายจตุพรยอมรับว่ายังมีข้อจำกัดที่ต้องแก้ไขอย่างรอบด้าน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและผู้ค้า กระทรวงพาณิชย์ยังเตรียมผลักดันการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายสินค้า และศึกษาความเป็นไปได้ในการนำสินค้าไปเจาะตลาดต่างประเทศ เพิ่มโอกาสสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการไทยตลาดนัดจตุจักรเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย และกระทรวงพาณิชย์พร้อมสนับสนุนเต็มที่ เพื่อให้ที่นี่กลับมาคึกคัก เป็นศูนย์กลางการค้าและท่องเที่ยวระดับโลก ทั้งนี้ จากการตรวจเยี่ยมพบว่าสินค้าในตลาดมีความหลากหลาย ราคาสมเหตุสมผล และอาหารมีคุณภาพดี อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ตลาดนัดจตุจักรเข้มงวดดูแลกรณีราคาสินค้าไม่ตรงป้าย หรือคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน ขณะเดียวกันกรมการค้าภายในได้จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจลงพื้นที่ต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบคุณภาพสินค้า ราคาที่เป็นธรรม และความถูกต้องของเครื่องชั่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและนักท่องเที่ยว และสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันต้องไม่มีการขาดแคลน และต้องจำหน่ายในราคาที่ประชาชนเข้าถึงได้ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและสร้างความเป็นธรรมในตลาด ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายจตุพรกล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจานำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐฯ ว่ายังอยู่ในระหว่างพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อเกษตรกรในประเทศ โดยยืนยันว่าอัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 19 สะท้อนการแข่งขันที่เหมาะสม ส่วนการนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการเผาเพื่อเตรียมปลูกพืช ต้องหารือเพิ่มเติม เนื่องจากเกี่ยวข้องกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและ PM2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน สำหรับการค้าชายแดนไทย กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบต่อการส่งออกเฉลี่ย 400 500 ล้านบาทต่อวัน กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งหาทางออก ทั้งการปรับเส้นทางกระจายสินค้า การหาตลาดใหม่ และการช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โดยย้ำว่ารัฐบาลจะคำนึงถึงอธิปไตยของประเทศควบคู่ไปกับการคุ้มครองผลประโยชน์ผู้ประกอบการ และเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับมาตรการทางการค้าสหรัฐฯ กระทรวงพาณิชย์เตรียมเปิด ศูนย์ One Stop Service ที่ศูนย์ส่งออกสินค้า ถนนรัชดาภิเษก ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้คำปรึกษาและข้อมูลแก่ผู้ประกอบการ ลดผลกระทบและสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจต่อไป
ดูเพิ่มเติม
ข่าวเลขที่ 235/2568 “DIT” เดินหน้าพยุงราคาลำไย ดึงโรงอบรับซื้อ 100,000 ตัน – วอนชาวสวนทยอยเก็บ เพื่อรักษาคุณภาพ-ขายได้ราคา (2 สิงหาคม 2568)
DIT กรมการค้าภายใน ผนึกสมาคมโรงอบลำไยอบแห้งภาคเหนือ เริ่มมาตรการรับซื้อลำไยรูดร่วงเกรด AA และ A รวม 100,000 ตัน เกรด AA รับซื้อไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 13 บาท เกรด A ไม่ต่ำกว่า 6 บาท หวังช่วยพยุงราคาในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก พร้อมวอนชาวสวนทยอยเก็บผลผลิตอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาคุณภาพและเพิ่มโอกาสขายได้ราคาดี วันที่ 1 สิงหาคม 2568 นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า วันนี้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน (DIT) ได้ลงพื้นที่จังหวัดลำพูน เพื่อตรวจติดตามการดำเนินโครงการช่วยเหลือด้านการตลาดลำไยในฤดูกาลผลิตปีนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มลำไยรูดร่วงเกรด AA และ A ซึ่งปีนี้มีปริมาณผลผลิตค่อนข้างมาก ซี่งขณะนี้มีผลผลิตออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 30% โดยคาดว่าผลผลิตรวมทั้งฤดูกาลจะอยู่ที่ประมาณ 740,000 ตัน และจะมีผลผลิตในฤดูออกสู่ตลาดมากที่สุดในช่วงสิงหาคม ปริมาณ 400,000 ตันโดยประมาณ นายวิทยากร กล่าวเพิ่มว่า วันนี้ DIT จึงเร่งดำเนินมาตรการร่วมกับสมาคมโรงอบลำไยอบแห้งภาคเหนือ เพื่อดึงผลผลิตออกจากตลาดสด และกำหนดราคาขั้นต่ำเพื่อพยุงราคาลำไยไม่ให้ตกต่ำ โดยเริ่มดำเนินการรับซื้อตั้งแต่วันนี้ (1 สิงหาคม) ถึงวันที่ 20 สิงหาคม 2568 โดยลำไยรูดร่วงเกรด AA รับซื้อไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 13 บาท โดย DIT สนับสนุนค่าบริหารจัดการ 3 บาท/กก. เกรด A รับซื้อไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 6 บาท สนับสนุนค่าบริหารจัดการ 2 บาท/กก. และเพื่อจะให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ ต้องขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทางจังหวัด และอำเภอ ช่วยกันประชาสัมพันธ์ว่าตอนนี้ ณ โรงร่อนราคารับซื้อลำไยรูดร่วง AA น่าจะอยู่ที่ 12 กับเกรด A ราคา 5 บาท ส่วนที่โรงงานอบแปรรูป ราคารับซื้ออยู่ที่ 13 บาท กับ 6 บาทและจะยืนอยู่ที่ราคานี้ต่อเนื่องไปอีกไม่น้อยกว่า 20 วัน พี่น้องชาวสวนจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งเก็บ เพื่อคุณภาพสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตลาด สำหรับลำไยรูดร่วงเกรด B กรมมีมาตรการช่วยเหลือเช่นกัน โดยเริ่มดูดซับผลผลิตมาตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม และยังคงดำเนินการต่อเนื่องอย่างเป็นระบบผ่านกลไกตลาดภายในประเทศ การเชื่อมโยงตลาด ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง รวมถึงกิจกรรมพรีออเดอร์กับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนสำหรับลำไยสดช่อ มาตรการช่วยเหลือลำไย เป็นมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2568 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการเชื่อมโยงตลาด โดยเน้น ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย และได้มอบหมายให้ DIT ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อพยุงราคาและสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรว่าสามารถนำผลผลิตคุณภาพดีมาจำหน่ายได้อย่างมีเสถียรภาพ นายวิทยากรกล่าว ด้านนายธนกฤต ตันวัฒนากุล นายกสมาคมผู้ผลิตลำไยอบแห้งภาคเหนือ เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯ เป็นเครือข่ายของกรมการค้าภายใน และพร้อมสนับสนุนนโยบายกรมอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือเกษตรกรยกระดับราคาลำไย โดยสมาคมฯ จะเริ่มดำเนินการรับซื้อลำไยจากเกษตรกรตั้งแต่วันนี้ (1สิงหาคม68) โดยพบว่าราคาลำไยเกรด AA ที่เคยอยู่กิโลกรัมละ 7 บาท ได้ขยับขึ้นเป็นกิโลกรัม 13 บาท สะท้อนว่าโครงการสามารถยกระดับราคาผลผลิตได้จริง DIT ยืนยันจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมใช้ทุกมาตรการเท่าที่จำเป็นในการดูแลราคาผลผลิตลำไยให้เป็นธรรมกับเกษตรกร และไม่กระทบต่อกลไกตลาด
ดูเพิ่มเติม
ข่าวเลขที่ 234/2568 “DIT” ลุยจับโกดังเครื่องชั่งเถื่อน ยึดล็อตใหญ่กว่า 1,600 เครื่อง มูลค่า 1,015,500 บาท ย้ำ ประชาชนสังเกตุเครื่องหมายรับรองบนเครื่องชั่ง ป้องกันถูกโกงน้ำหนัก (1 สิงหาคม 2568)
DIT ลุยจับโกดังเครื่องชั่งเถื่อน ยึดล็อตใหญ่กว่า 1,600 เครื่อง มูลค่า 1,015,500 บาท ย้ำ ประชาชนสังเกตุเครื่องหมายรับรองบนเครื่องชั่ง ป้องกันถูกโกงน้ำหนัก วันที่ 1 สิงหาคม 2568 นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า DIT ได้รับแจ้งข้อมูลการจำหน่ายเครื่องชั่งดิจิทัลคำนวณราคาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่จำหน่ายเพียงเครื่องละ 1,150 บาท โดยเครื่องชั่งดังกล่าวไม่มีเครื่องหมายรับรองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายของกรมการค้าภายใน ถือเป็นเครื่องชั่งผิดกฎหมายที่อาจสร้างความเสียหายให้แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการได้ DIT จึงร่วมกับ CIB ดำเนินการล่อซื้อเครื่องชั่งดิจิทัลดังกล่าวผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 DIT โดยนายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมฯ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักชั่งตวงวัด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดสำนักงานสาขานครปฐม และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ชป.2 กก.1 บก.ปคบ.) หรือ CIB เข้าดำเนินการจับกุมเครื่องชั่งที่ไม่ได้มาตรฐานตามกฎหมายว่าด้วยชั่งตวงวัด นายวิทยากร กล่าวต่ออีกว่า เจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดได้ตรวจสอบขยายผล พบว่าต้นทางการจำหน่ายเครื่องชั่งดังกล่าวเชื่อมโยงกับโกดังสินค้าในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีบริษัทแห่งหนึ่ง ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เป็นผู้นำเข้า เมื่อเข้าตรวจสอบโกดังดังกล่าว พบเครื่องชั่งที่ไม่ผ่านการตรวจสอบให้คำรับรองซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 จำนวน 4 รายการ รวมจำนวน 1,651 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,015,500 บาท แบ่งเป็น เครื่องชั่งไม่อัตโนมัติ แสดงค่าได้เอง พิกัดกำลัง 150-300 กก. 187 เครื่อง, เครื่องชั่งไม่อัตโนมัติ แสดงค่าได้เอง พิกัดกำลัง 40 กก. 1,300 เครื่อง, เครื่องชั่งไม่อัตโนมัติ แสดงค่าได้เอง พิกัดกำลัง 10 กก. 30 เครื่อง และเครื่องชั่งสปริงหน้าปัดเดียว พิกัดกำลัง 10 กก. 134 เครื่อง จึงได้ตรวจยึดของกลาง และขยายผลหาผู้กระทำผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยผู้กระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีในข้อหา จำหน่ายเครื่องชั่งตวงวัดโดยไม่มีหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจำหน่ายเครื่องชั่งที่ไม่มีคำรับรองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นายวิทยากร กล่าวย้ำว่า DIT ขอย้ำเตือนให้ผู้จำหน่ายเครื่องชั่งตวงวัดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 โดยต้องมีหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจจากกรมการค้าภายใน และเครื่องชั่งทุกเครื่องต้องมีเครื่องหมายคำรับรองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะเครื่องมือวัดที่ใช้เพื่อการพาณิชย์ เช่น เครื่องชั่งทอง เครื่องชั่งสปริง เครื่องชั่งดิจิทัล เครื่องตวงของเหลว เครื่องตวงของแห้ง เครื่องวัดความชื้น หรือเครื่องวัดความยาว หากพบผู้จำหน่ายฝ่าฝืน จะดำเนินการตามกฎหมายโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569
ดูเพิ่มเติม
ข่าวเลขที่ 233/2568 DIT X The Mall หนุนสินค้าเกษตรชุมชน ช้อปของดี ส่งตรงจากฟาร์มถึงห้าง (30 กรกฎาคม 2568)
DIT X The Mall หนุนสินค้าเกษตรชุมชน ช้อปของดี ส่งตรงจากฟาร์มถึงห้าง DIT กรมการค้าภายใน เดินหน้าส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากผ่านการผลักดันสินค้าชุมชนเข้าสู่ห้างค้าปลีกชั้นนำ จับมือภาคเอกชน เดอะมอลล์ กรุ๊ป จัดกิจกรรม Gourmet Market X DIT Farm Outlet ระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม 15 สิงหาคม 2568 ณ กูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขาพารากอน เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการในเครือข่ายศูนย์ Farm Outlet ทั่วประเทศ พร้อมขานรับนโยบาย ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย นางสาวญาณี ศรีมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามนโยบาย ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย ของนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งส่งเสริมให้คนไทยหันมาสนับสนุนสินค้าไทย และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจจากฐานราก กรมการค้าภายในจึงได้จัดกิจกรรม Gourmet Market x DIT Farm Outlet โดยได้รับความร่วมมือจาก เดอะมอลล์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นพันธมิตรภาคเอกชนที่เข้มแข็ง และได้สนับสนุนโครงการนี้มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 ในการส่งเสริมและสนับสนุนการกระจายสินค้าชุมชนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการเชื่อมโยงช่องทางการจำหน่ายและสร้างการรับรู้ต่อผลิตภัณฑ์ของศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน (Farm Outlet) สำหรับกิจกรรม Gourmet Market X DIT Farm Outlet ได้คัดสรรสินค้าเกษตรคุณภาพดี สินค้าเกษตรแปรรูป และผลิตภัณฑ์อินทรีย์จากศูนย์ Farm Outlet ทั่วประเทศ มาจำหน่ายให้ผู้บริโภคมาเลือกซื้อ เลือกช้อป ณ ห้างใจกลางเมืองในรูปแบบ Pop-up Store สินค้าที่นำมาจัดจำหน่าย อาทิ อาหารทะเลแปรรูป น้ำพริกปลาคั่วโบราณ ข้าวเกรียบกั้ง มะม่วงอบแห้ง ผ้าบาติกมัดย้อม กระเป๋าสานจากผักตบชวา และสินค้าอื่น ๆ รวมกว่า 100 รายการ โดยเน้นให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพ สดใหม่ ปลอดภัย และราคาย่อมเยา นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างหลากหลาย เช่น การลดราคาสินค้า และโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อ 1 แถม 1 เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย และขยายฐานผู้บริโภคให้กว้างขึ้น กิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการ และสถาบันเกษตรกรในเครือข่ายศูนย์ Farm Outlet โดยกรมฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพิ่มมูลค่า และผลักดันให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ ๆ นักท่องเที่ยว ได้อย่างทั่วถึง เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนในระดับชุมชน รองอธิบดีกล่าว ทั้งนี้ กรมการค้าภายในยังมีแผนจัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชนเพิ่มเติมในช่วงเดือนสิงหาคม กันยายน 2568 ณ ศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจะเป็นการจัดงานแสดงสินค้าชุมชนที่รวบรวมผลิตภัณฑ์จากศูนย์ Farm Outlet ทั่วประเทศ เพื่อขยายโอกาสการตลาดและส่งเสริมการรับรู้สินค้าชุมชนในวงกว้างยิ่งขึ้น ปัจจุบัน กรมการค้าภายในได้สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน (Farm Outlet) แล้วกว่า 57 แห่ง ใน 35 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นกลไกการตลาดในระดับพื้นที่ รองรับผลผลิตจากเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน โดยมุ่งเน้นการนำเสนอสินค้าเกษตรอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์แปรรูป และสินค้าชุมชนที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และปลอดภัยต่อผู้บริโภค การจัดกิจกรรม Gourmet Market X DIT Farm Outlet ณ กูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขาพารากอน ในครั้งนี้ จึงนับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ที่ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการผลิตในระดับชุมชน และสนับสนุนให้สินค้าไทยเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง ภายใต้แนวคิด ช้อปของดี ส่งตรงจากฟาร์มคุณภาพ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ในการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศ
ดูเพิ่มเติม
ข่าวเลขที่ 232/2568 “สุชาติ” ยกทัพสินค้าราคาประหยัดจำหน่ายในงาน “มหกรรมธงฟ้า จังหวัดชลบุรี” พร้อมกระจายพืชผลการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุชายแดน และอุทกภัยภาคเหนือ (28 กรกฎาคม 2568)
สุชาติ ยกทัพสินค้าราคาประหยัดจำหน่ายในงาน มหกรรมธงฟ้า จังหวัดชลบุรี พร้อมกระจายพืชผลการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุชายแดน และอุทกภัยภาคเหนือ รมช.สุชาติ เปิดงาน มหกรรมธงฟ้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค จังหวัดชลบุรี ซึ่งจัดโดย DIT กรมการค้าภายใน นำสินค้าอุปโภคบริโภค 10 หมวด กว่า 800 รายการ ลดสูงสุด 60% และยังมีสินค้าไฮไลท์ ทั้งไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำมันปาล์ม ข้าวหอมมะลิ มังคุด และลำไย มาจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพ และเพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้า และเชื่อมโยงสินค้าจากผู้ประกอบการจังหวัดสระแก้ว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการผ่านแดนไทย-กัมพูชา และเหตุอุทกภัยในภาคเหนือ วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568 ศาลากลางจังหวัดชลบุรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานพิธีเปิดงาน มหกรรมธงฟ้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคจังหวัดชลบุรี โดยเปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันสำคัญของปวงชนชาวไทย กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จึงได้จัดกิจกรรมมหกรรมลดค่าครองชีพเพื่อให้พี่น้องประชาชน ได้จับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าที่จำเป็นได้ในราคาประหยัด โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการตามนโยบาย ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ในการเชื่อมโยงสินค้าจากผู้ผลิต มาจำหน่ายให้พี่น้องในราคาที่เป็นธรรม นายสุชาติ กล่าวเพิ่มอีกว่า นอกจากลดค่าครองชีพพี่น้องประชาชนแล้ว กรมการค้าภายในยังได้เพิ่มโอกาสทางการค้า ให้กับพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ประสบภัยความเดือดร้อนไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากการปิดด่านชายแดนไทยกัมพูชา และอุทกภัยน้ำท่วมภาคเหนือ พี่น้องเกษตรกรไม่สามารถจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรได้ วันนี้กรมการค้าภายในก็เชื่อมโยงนำมาจำหน่ายภายในงานธงฟ้า อาทิ กระท้อนหวานจากจังหวัดสระแก้ว ลำไยจากจังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมเชื่อมโยงและรณรงค์บริโภคกุ้ง ซึ่งเป็นโครงการของกรมการค้าภายในที่จัดโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นการบริโภคกุ้ง ซึ่งนำมาให้พี่น้องชาวจังหวัดชลบุรีและใกล้เคียงได้มาเลือกซื้อในราคาที่ประหยัดอีกด้วย ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนในจังหวัดชลบุรี และจังหวัดมาเลือกซื้อสินค้าในโครงการนี้ ซึ่งเป็นสินค้าคุณภาพและราคาประหยัดที่ทางกระทรวงพาณิชย์ได้เลือกสรรมาให้ท่าน ทั้งสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ของกินของใช้และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนได้ตามเป้าหมาย นายสุชาติกล่าว โดยกิจกรรมในงานมหกรรมธงฟ้า ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคและ งาน กิน กุ้ง ชล จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 29 กรกฎาคม 2568 ณ บริเวณลานกิจกรรมหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี สินค้าที่นำมาจำหน่ายภายในงานได้รับความร่วมมือจาก ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ กลุ่มเกษตรกร ผู้ผลิตรายกลางและรายย่อย (SMEs) และวิสาหชุมชน ที่กรมนำมาจำหน่ายรวม 10 หมวด กว่า 800 รายการ ลดสูงสุด 60% อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ซอสปรุงรส น้ำยาซักผ้า ของใช้ประจำวัน เครื่องครัว อุปกรณ์ช่าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องแต่งกาย สินค้าชุมชน เป็นต้น ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการจำหน่ายสินค้าไฮไลท์ ในราคาพิเศษทุกวัน อาทิ ไข่ไก่เบอร์ M แผงละ 90 บาท น้ำตาลทราย กิโลกรัมละ 23 บาท น้ำมันพืชปาล์ม ขวดละ 42 บาท ข้าวหอมมะลิ (5 กก.) ถุงละ 135 บาท นอกจากนั้นยังเชื่อมโยงจากกลุ่มเกษตรกร มังคุด กิโลกรัมละ 35 บาท และลำไย กิโลกรัมละ 15 บาท และยังเชื่อมโยงสินค้าจากเกษตรกรและผู้ประกอบการจังหวัดสระแก้ว มาจำหน่ายในงานอีกด้วย
ดูเพิ่มเติม
Dit Logo New (2)

กรมการค้าภายใน ขอส่งแรงใจให้ทหารแนวหน้าที่กำลังปกป้องอธิปไตยผืนแผ่นดินไทย และพี่น้องชาวไทย ขอให้ปลอดภัย

สอบถามข้อมูล

arrow-down

DIT Chat Service ยินดีให้บริการ

maximize
สอบถามข้อมูลเพิมเติมกับเจ้าหน้าที่ (Admin)

บริการของกรมการค้าภายใน

7422635f-7946-4705-88ec-05d965bd7b40

การขออนุญาตประกอบการค้า

862c658c-96a2-4f51-87cb-7ae89028e48a

สอบถามราคาสินค้าเกษตร

e776ba32-103f-4917-b746-5333af42cf9d

รวบรวมกิจกรรมกรมการค้าภายใน

3e6fa301-b225-4427-b882-4d78e453a2ed

การเดินทางมายังกรมการค้าภายใน

เลขที 563 ถนนนนทบุรี ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000

โทรศัพท์ 0-2507-5530

โทรสาร: 0-257-5361

E-mail: Saraban@dit.go.th

Call Center: 1569 ร้องเรียน/เสนอแนะ