จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้ได้ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าทางการเกษตร พ่อค้าไม่กล้าเข้ามารับซื้อสินค้า ดังนั้น พลเอก ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ ประธานคณะทำงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ จึงได้เสนอของบประมาณก่อสร้างห้องเย็น จากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่เดินทางไปเยี่ยมฟาร์มตัวอย่างฯ บ้านน้ำดำ เมื่อ 17 มกราคม 2552 รัฐบาลจึงได้ให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เข้ามาเป็นหน่วยงานดำเนินการโครงการก่อสร้างตลาดกลางการเกษตรและห้องเย็น จังหวัดปัตตานี ในปี 2552 และ 2553 โดยขอใช้ประโยชน์พื้นที่ของ กองพลทหารราบที่ 15 เนื้อที่ประมาณ 8 – 0 –  42.5 ไร่ เพื่อวัตถุประสงค์หลักดังนี้
          1. เพื่อการจัดเก็บ ผัก – ผลไม้ ในฤดูกาล ที่มีผลผลิตล้นตลาดไว้จำหน่ายนอกฤดูกาลหรือช่วงที่ ตลาดต้องการ เป็นการช่วยให้ราคาสินค้าเกษตรไม่ตกต่ำมากเกินไป
          2. เพื่อรักษาคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตรให้มีความสด เป็นการยืดอายุของผลผลิตทาง การเกษตร และเป็นศูนย์ทดลองการจัดเก็บ ผัก – ผลไม้
          3. เพื่อจัดทำเป็นตลาดสด ศูนย์กลางรวมผัก – ผลไม้ สำหรับจำหน่าย
          4. เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ การบริหารในด้านการตลาด การกระจายสินค้าจากเกษตรกรสู่พ่อค้าคนกลางและผู้บริโภค
          5. เพื่อเพิ่มการสร้างคน สร้างรายได้ ให้ผู้ประกอบการสินค้าทางการเกษตรใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
          6. ส่งเสริมให้ชาวนาในพื้นที่ปลูกข้าวตามสายพันธุ์ที่ตลาดต้องการ โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกเพื่อผลิตเป็นข้าวสารที่ไม่มีสารเคมี จำหน่ายให้หน่วยงานต่างๆ และผู้บริโภคทั่วไปในพื้นที่
          ต่อมาในปี 2554 สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้สนับสนุนและส่งเสริมให้ ตลาดกลางการเกษตรและห้องเย็น จังหวัดปัตตานี จัดตั้ง “ตลาดนัดไทยเข้มแข็ง”  ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้เสริมจากการนำผลผลิตทางการเกษตรของตนเองมาจำหน่าย
          ตลาดกลางการเกษตรและห้องเย็น (ตลาดนัดไทยเข้มแข็ง) เปิดบริการทุกวันอาทิตย์ เวลา 06.00 น. -13.00 น. โดยจะมีการจำหน่ายสินค้าหลายประเภท เช่น ผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน ผลิตภัณฑ์ของชุมชน ผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชน อาหารต่างๆ ขนมพื้นบ้าน สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้นโดยปัจจุบันมีร้านค้าที่ร่วมจำหน่ายใน “ตลาดกลางการเกษตรและห้องเย็น” (ตลาดนัดไทยเข้มแข็ง) จำนวน 130 ร้านค้า