มะนาว
- ราคามะนาวสูง ในช่วงฤดูแล้งและ (ธ.ค. - เม.ย.) เนื่องจากสภาพอากาศร้อนและอากาศแห้งแล้งฝนทิ้งช่วง ทำให้มะนาวไม่ค่อยติดผล ผลผลิตเข้าสู่ตลาดน้อยและมีผลเล็ก ผู้บริโภคจึงได้รับความเดือดร้อน
- ราคามะนาวต่ำ ในช่วงฤดูฝน (ก.ค.-ก.ย.) เนื่องจากสภาพอากาศเอื้อต่อการผลิต ฝนตกสม่ำเสมอ ผลผลิตมีปริมาณมาก ทำให้ราคาตกต่ำ เกษตรกรจึงได้รับความเดือดร้อน
การแก้ไขปัญหา
กรมการค้าภายในดำเนินการช่วยเหลือทั้งเกษตรกรในกรณีราคามะนาวต่ำและผู้บริโภคในกรณีราคามะนาวสูง โดยการเชื่อมโยงให้กลุ่มเกษตรกรนำผลผลิตมะนาวมาขายโดยตรง ให้แก่ผู้บริโภคในสถานที่ต่างๆ เช่น หน่วยงานราชการ สถานีบริการน้ำมัน และจำหน่ายในงานธงฟ้าที่จัดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ ในราคาที่เหมาะสมเพื่อเป็นการลดขั้นตอนทางการตลาด
ผัก
โดยปกติรที่แปรปรวน โดยราคาผักจะอยู่ในรัดับสูง ในช่วงฤดูร้อน (มี.ค.-เม.ย.) ฝนแล้งอากาศร้อนจัด ทำให้พืชผักไม่เจริญเติบโตหรือมีลักษณะไม่สมบรูณ์เเละสูญเสียหายมากสำหรับในช่วงอากาศเย็นราคาผักจะอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะผักใบ ส่วนราคาผักผลอยู๋ในระดับต่ำช่วงฤดูฝน
การแก้ไขปัญญา
กรมการค้าภายในดำเนินการช่วยเหลือทั้งเกษตรกรในกรณีราคาผักต่ำ และผู้บริโภคในกรณีราคาผักสูง โดยการเชื่อมโยงให้กลุ่มเกษตรกรนำผักมาขายโดยตรงให้แก่ผู้บริโภคในสถานที่ต่างๆ เช่นหน่วยงานราชการ สถานีบริการน้ำมัน เพื่อเป็นการลดขั้นตอนทางการตลาด
ผลไม้
ช่วงฤดูผลไม้อยู่ระหว่างเดือน เม.ย.-ก.ย. โดยราคาผลไม้จะอยู๋ในระดับต่ำในช่วงที่ออกสู่ตลาดมาก ประมาณชนิดละ ๓๐ วัน เนื่องจากปริมาณผลผลิตล้นตลาดในช่วงดังกล่าว และออกสู่ตลาดพร้อมกันหลายชนิด สำหรับผลไม่คุณภาพดีจะไม่มีปัญหาในเรื่องราคา เนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาดโดยเฉพาะตลาดส่งออก โดยปกติมักจะเกิดปัญหากับราคาผลไม้เกรดคละ
การแก้ไขปัญหา
๑) การกระจายภายในประเทศ โดยการเชื่อมโยงซื้อขายระหว่างกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดแหล่งผลิต และผู้ประกอบการในจังหวัดปลายทางที่มีศักยภาพ
๒) เชื่อมโยง Modern Trade เพื่อขอให้รับซื้อผลผลิตปริมาณเพิ่มขึ้น และหลีกเลี่ยงการใช้กลยุทธ์การแข่งขันลดราคาจำหน่ายผลไม้เพื่อดึงดูดใจลูกค้า
๓) เชื่อมโยงโรงงานผลไม้กระป๋อง รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรงในปริมาณที่้เพิ่มขึ้นและในราคาที่เป็นธรรม
๔) ส่งเสริมการจำหน่าย โดยการจักสถานที่จำหน่ายให้เกษตรกรนำผลผลิตมาจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรงในสถานที่ต่างๆ เช่น หน่วยงานราชการ สถานีบริการน้ำมัน และงานธงฟ้าที่จัดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ
ทั้งนี้ สินค้าผลไม้มีคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน และอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเป็นเลขานุการ ทำหน้าที่บริหารจัดการทั้งระบบ ซึ่งในการดำเนินการแก้ไขปัญกาผลไม้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว จะบูรณาการดำเนินการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรการเกษตร เป็นต้น
กรมการค้าภายใน มีภารกิจสำคัญในการดูแลปากท้องประชาชน และความเป็นอยู่ของเกษตรกร โดยการสอดส่องติดตามสถานการณ์ภาวะราคาและปริมาณสินค้าอย่างใกล่ชิด ป้องกันมิให้การฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบ และสินค้าราคาโดยไม่เป็นธรรม โดยมีแนวทางมาตราการกำกับดูแลราคาและปริมาณสินค้า ดังนี้
๑. การตรวจสอบสถานการณ์สินค้า
(๑) ตรวจสอบราคาและพฤติกรรมการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่การครองชีพ สินค้าเกษตร และการให้บริการอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องเพื่อป้องกันและปราบปรามการฉวยโอกาสขึ้นราคา การเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคและเกษตรกร การปฏิบัติการการค้าที่ไม่เป็นธรรม ดูแลให้สินค้าทีปริมาณเพียงพอต่อผู้บริโภค โดยการทำการตรวจสอบแบบเชิงรุก เพื่อเฝ้าระวังและเป็นการคาดการณ์ เตือนภัยล่วงหน้าก่อนที่สินค้าและบริการจะเกิดปัญหาต่างๆขึ้น
(๒) ตรวจสอบตามคำร้องเรียน ผ่านศูนย์รับร้องเรียนราคาสินค้ากรมการค้าภายใน "สายด่วน ๑๕๖๙" เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
(๓) การตั้งหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่ (Mobile Unit) ประจำจุดเป้าหมายตามแหล่งย่านการค้าและชุมชนต่างๆ เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตลาดสด ห้างสรรพสินค้า สถานีขนส่ง ย่านประตูน้ำ เป็นต้น เพื่อให้สามารถปฏิบัตงานได้ทันทีเมื่อมีการร้องเรียนผ่าน "สายด่วน ๑๕๖๙"
๒.การตรวจให้มีการปฏิบัตตามกฎหมาย
(๑) การปิดป้ายเเสดงราคาจำหน่าย ตรวจสอบเเละแนะนำให้ผู้จำหน่ายปลีกสินค้า ๒๓๒ รายการ และผู้ให้บริการ ๔๘ รายการ ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าและค่าบริการรวมทั้งผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตร ๓๐ รายการ ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฏหมาย
(๒) การค้ากำไรเกินควรและการกักตุนสินค้า ตรวจสอบมิให้มีการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าและคิดค่าบริการสูงเกินสมควร ทำการกักตุนสินค้าโดยปฏิเสธการจำหน่ายโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
(๓) การเเจ้งข้อมูล ตรวจสอบให้มีการเเจ้งข้อมูลเกียวกับต้นทุน ราคา ปริมาณ ปุ๋ยเคมี นม กาแฟผงสำเร็จรูป ผงซักฟอก ปูนซีเมนต์ สายไฟฟ้า เหล็ก รวมทั้งสุ่มตรวจสอบข้อมูลที่ผู้ประกอบการแจ้งไว้ให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามความเป็นจริง
๓. ผลการตรวจสอบ
(๑) ประชาชนผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองให้สามารถซื้อหาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่การครองชีพได้ในราคาที่เป็นธรรม และผู้ประกอบการไม่สามารถฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา หรือปรับลดขนาด และจำหน่ายในราคาเดิมได้ สินค้ามีปริมาณครบถ้วน และเพียงพอต่อการบริโภค รวมทั้งป้องปราบการกักตุนสินค้า
(๒) เกษตรกรสามารถขายผลลผิตได้ในราคาที่เป็นธรรม รวมทั้งช่วยป้องกันมิให้เกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบด้านปริมาณ น้ำหนัก และการหัดลดความชื้น
แม่ปุ๋ยยูเรียเป็นผลิตภัณฑ์ของน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ ต้องพึ่งพาการนำเข้า ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ และราคาอิงกับตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามราคาน้ำมันตลาดโลก ซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของกระทรวงพาณิชย์และมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตปุ๋ยสูง แต่ในปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ได้มีการกำหนดมาตราการที่ใช้กำกับดูแลเรื่องปุ๋ยเคมีอย่างเข้มงวดอยู่เเล้ว ดังนี้
- กำหนดให้ปุ๋ยเคมีเป็นสินค้าควบคุมและกำหนดมาตราการให้ผู้ว่าจ้างผลิต/ผู้นำเข้า แจ้งราคาและรายละเอียดสินค้า ส่วนลด แลพห้ามจำหน่ายแตกต่างจากที่แจ้งไว้ เว้นแต่ได้รับอนุญาต และกำหนดให้ผู้จำหน่ายปลีกปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายปลีก ทั้งนี้ ในส่วนของการดูแลที่ต้นทาง ( ณ โรงงาน) ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาปุ๋ยเคมี เพื่อดูแลไม่ให้การปรับราคาขายส่ง ณ โรงงาน สูงเกินภาวะต้นทุนที่สูงขึ้น และการพิจารณาให้ปรับราคาจะคำนึงถึงความสมเหตุสมผล ให้ปรับราคาตามความจำเป็น มีความเป็นธรรม และปรับแบบค่อยเป็นค่อยไปคือให้ปรับราคาเป็นแบบช่วงๆ เป็นระยะๆ ในเวลาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรมากนัก
- ใช้อำนาจบริหารในการกำกับดูแลเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงราคาปลายทาง (จำหน่ายปลีก) ปรับสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงราคาต้นทาง เป็นการดูแลเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขายปุ๋ยเคมีและไม่เอารัดเอาเปรียบ โดย
๑ จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกติดตามตรวจสอบภาวะราคาอย่างใกล้ชิดเป็นประจำต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันการปราบปรามการฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือกักตุนสินค้าปุ๋ย หากมีการฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด
๒ จัดตั้งศูนย์รับร้องเรียนราคาสินค้า (สายด่วน ๑๕๖๙) สร้างเครือข่ายภาคประชาชน "อาสาธงฟ้า ๑๕๖๙" พร้อมทั้งจัดเตรียมหน่วยตรวจสอบเคลื่อนที่เร็ว (Mobile Unit) ออกไปตรวจสอบได้ทันทีที่เกิดปัญหา
คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณากำหนดให้เป็นสินค้าควบคุม ดังนี้
- เป็นสินค้าที่จำเป็นแก่การครองชีพ
- เป็นสินค้าที่ใช้เป็นปัจจัยการผลิตต่อเนื่อง
- โครงสร้างตลาดมีผู้ผลิตหรือผู้ขายน้อยราย สภาพตลาดไม่มีการแข่งขันกันเท่าที่ควร
- เป็นสินค้าที่มีเทคนิคการผลิตและการลงทุนสูง ส่งผลให้ผู้ผลิตรายใหม่เข้าสู่ตลาดได้ค่อนข้างยาก
- เป็นสินค้าที่มีความเคลื่อนไหวด้านราคาบ่อยครั้งหรือขึ้นผิดปกติ และปริมาณขาดแคลนในบางครั้ง
- เป็นสินค้าที่มีความเชื่อมโยงและได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงราคาในตลาดโลกมาก
การดูแลราคาสินค้าเป็นภารกิจหลักด้านหนึ่งของกระทรวงพาณิชย์ โดยอาศัยอำนาจตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. ๒๕๔๒ รวมทั้งได้ยึดครองตามรัฐธรรมนูญปี ๒๕๕๐ ที่กำหนดให้รัฐสนับสนุนระบบเศรษฐกิจแบบเสรีและเป็นธรรม และได้กำหนดกรอบนโยบายในการดูแลสินค้า คือ
- ราคาสินค้าต้องเป็นธรรม
- มีปริมาณสินค้าเพียงพอกับความต้องการ
- ปริมาณครบถ้วน ถูกต้องและตรงตามที่ระบุไว้
- ไม่มีการฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน
- มีปริมาณสินค้าเพียงพอกับความต้องการ
- ปริมาณครบถ้วน ถูกต้องและตรงตามที่ระบุไว้
- ไม่มีการฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน