จนท.ชุมพรจับแม่ค้าทุเรียนโกงตาชั่ง หลังลูกค้าซื้อแล้วส่งพัสดุ พบหนักไม่เท่ากัน

แม่ค้าทุเรียนที่ชุมพรโดนลูกค้าจับโกงตาชั่ง หลังซื้อทุเรียน 2 ลูก ชั่งที่ร้านหนัก 16.4 กก.ราคากว่า 1,600 บาท หวังส่งให้แม่ผ่านบริษัทขนส่ง ชั่งคิดค่าพัสดุพบหนักจริงแค่ 11.68 กก. ด้าน จนท.ดำเนินคดีโดนโทษหนัก แถมเจอทุเรียนสุราษฎร์อ้างเป็นของชุมพรด้วย

วานนี้ (14 พ.ค. 2567) นายสัญญา เนื้อนุ่ม หัวหน้าสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชุมพร ร่วมกับ ร.ต.ท.โชคชัย รัตนพันธ์ รอง สว.(ป.) สภ.หลังสวน หัวหน้าชุดปฏิบัติการชุดสายตรวจ ส.ต.อ.ธวัชชัย สุขสานติ์ ด.ต.สมเจตต์ ศรัทธาธรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าขายทุเรียนริมทาง ถนนเอเชีย 41 (ขาขึ้น กทม.) ตรงข้าห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาหลังสวน ต.ขันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนผ่านกรมการค้าภายใน กรณีซื้อทุเรียนหมอนทองจากแผงทุเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอหลังสวน จำนวน 2 ลูก ราคากิโลกรัมละ 100 บาท โดยทางร้านได้ชั่งน้ำหนักทุเรียน 2 ลูกรวมกันได้ 16.4 กก. ซึ่งมีการแสดงน้ำหนักที่ชั่งให้เห็นชัดเจน จึงไม่ได้ติดใจและชำระเงินให้กับร้านค้า รวมราคา 1,640 บาท ด้วยการโอนเงินผ่านระบบธนาคารจากนั้นผู้ซื้อได้นำทุเรียนไปส่งให้แม่ที่อยู่ต่างจังหวัดกับบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งในพื้นที่ ก่อนพบข้อมูลการส่งพัสดุของบริษัทขนส่ง ปรากฏน้ำหนักของทุเรียนรวมกล่องบรรจุภัณฑ์น้ำหนักอยู่ที่ 11.68 กิโลกรัม ซึ่งไม่ตรงกับตาชั่งที่ร้านขายทุเรียน จึงขอให้ตรวจสอบตาชั่งร้านขายทุเรียนดังกล่าวด้วย

สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แฝงตัวเป็นลูกค้าเข้าไปซื้อทุเรียนร้านค้าที่ถูกร้องเรียน พร้อมถ่ายคลิปวิดีโอไว้ทั้งหมดว่า แม่ค้ามีพฤติกรรมอย่างไร ซึ่งทราบชื่อภายหลัง คือ น.ส.สุภาพร อายุ 43 ปี ชาวบ้าน ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี พบว่าแม่ค้ารายนี้ จะใช้สกอตเทปสีดำปิดที่เครื่องชั่งดิจิทัลตรงส่วนที่เป็นการแสดงน้ำหนัก และส่วนที่เป็นราคาต่อหน่วย จะโชว์แค่ส่วนที่เป็นราคารวมสมมติว่าลูกค้านำทุเรียนวางที่ตาชั่ง 1 กก. แม่ค้าก็จะกดราคาไว้ที่ประมาณ 1.3 บาท พอคูณกับ 1 กก. ก็จะเป็นราคาที่ลูกค้าต้องจ่าย ซึ่งถ้าลูกค้าไม่สังเกตก็จะคิดว่าตัวเลขที่เห็นบนตาชั่งเป็นน้ำหนักของทุเรียน ก็จะนำไปคูณกับราคาทุเรียนอีก 100 บาท ซึ่งเป็นเทคนิคของแม่ค้าที่ทำให้ลูกค้าเกิดสับสน นอกจากนี้จากการสอบถามแม่ค้าทุเรียนทราบว่าทุเรียนที่จำหน่ายนั้นนำมาจาก อ.นาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งไม่ใช่ทุเรียนใน จ.ชุมพร แต่อย่างใด